ชาว EV แอ่วเหนือปีนี้ ได้วิวดี๊ดี แถมมี “สถานีชาร์จ” ในภาคเหนือ อยู่ไม่ไกล!
ในบรรดาสถานที่ท่องเที่ยวมาแรงตลอดกาลในหน้าหนาวของทุกปี ก็ต้องยกให้กับภาคเหนือ ที่ไม่ว่าจะกี่ปีก็ถือว่าเป็น Dream Destination ของใครหลาย ๆ คน เพราะฉะนั้น ทางอีโวลท์จะพาชาว EV มาเปิดวาร์ปพิกัด 7 สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ เพื่อเป็นแนวทางในการจัดทริปในหน้าหนาวนี้ การันตีว่าได้วิวดี๊ดี แถมมีพิกัด “สถานีชาร์จ” ในพื้นที่ภาคเหนือให้ด้วย พร้อมแผนที่สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบจัดเต็ม บอกเลยว่า มีให้ใช้ทั้งหัวชาร์จแบบ AC และ DC Charger แน่นอน
เลือกอ่านตามหัวข้อ
7 สถานที่ท่องเที่ยว ภาคเหนือ ยอดฮิต พร้อมพิกัดสถานีชาร์จรถ EV
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในภาคเหนือที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ก็ถือว่ามีหลายจังหวัด ไม่ว่าจะเป็น เชียงใหม่ เชียงราย น่าน แม่ฮ่องสอน ฯลฯ เพราะฉะนั้น เราจะพาคุณมาเปิดพิกัดแหล่งท่องเที่ยวสุด Unseen กัน ว่ามีพื้นที่ไหนบ้างที่ไม่ควรพลาด บางที่ถึงแม้จะเป็นช่วง High Season แต่ก็ไม่ได้มีคนพลุกพล่านมากนัก เหมาะแก่การไปนั่งชิลและสัมผัสกับอากาศดีดีบนดอย ว่าแล้วก็มาส่องพิกัดแหล่งท่องเที่ยวทั้ง 7 ที่กันได้เลย!
1. หมู่บ้านแม่กำปอง จ.เชียงใหม่
ถ้าใครเป็นสายชิลและอยากไปสัมผัสกับอากาศเย็น ๆ ก็ต้องปักหมุดกันไปที่ “หมู่บ้านแม่กำปอง จ.เชียงใหม่” โดยหมู่บ้านนี้ก่อตั้งมาประมาณ 100 กว่าปี จุดเด่นของหมู่บ้านคือ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ให้บริการที่พักแบบโฮมสเตย์โดยคนในหมู่บ้าน นอกจากนี้ ในพื้นที่หมู่บ้านก็มีแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตมากมาย เช่น โบสถ์กลางน้ำ, กิ่วฝิ่น และที่พลาดไม่ได้คือ น้ำตกแม่กำปอง ที่สามารถเดินขึ้นไปชมวิวสวย ๆ ได้
ส่วนใครที่พักที่โฮมสเตย์ในหมู่บ้านก็จะมีวิวสวย ๆ ให้ชม หรือหากใครที่อยากจะเดินหาของกินชิล ๆ ที่โซนถนนคนเดินก็มีของกินให้เลือกหลายอย่าง ส่วนใครที่ใช้รถยนต์ EV สำหรับเดินทาง ก็สามารถแวะชาร์จไฟที่สถานีชาร์จรถ EV ของทาง Evolt ได้หลายจุดระหว่างทางไป อาทิ ปั๊มน้ำมัน Caltex ทิน-ทังสเตน ถ.เชียงใหม่-ดอยสะเก็ด ซึ่งอยู่ระหว่างทางไปแม่กำปองและมีระยะห่างเพียงแค่ 43.5 กิโลเมตร เท่านั้น (เส้นทางจากปั๊ม – หมู่บ้านแม่กำปอง)
2. ห้วยกุ๊บกั๊บ จ.เชียงใหม่
“หวยกุ๊บกั๊บ” ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 จ.กื้ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ถือเป็นหมู่บ้านลับยอดดอยที่มาพร้อมกับความสโลว์ไลฟ์ และความชิลแบบเต็มสูบ เพราะมีบ้านเรือนกันอยู่ประมาณ 40 หลังคาเรือนเท่านั้น และไม่ว่าจะเดินทางไปเที่ยวในช่วง Low Season หรือ High Season ก็ไม่ค่อยวุ่นวายเท่าไหร่ เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เงียบสงบ อยู่บนดอย และมีการเดินทางที่ค่อนข้างยาก เพราะถนนมีความแคบและชัน
เพราะฉะนั้น นักท่องเที่ยวควรใช้รถของชาวบ้านในการเดินทางขึ้นไปในหมู่บ้าน เนื่องจากทางขึ้นเขาค่อนข้างชันและอันตราย (ฝากรถยนต์ส่วนตัวไว้ที่จุดนัดพบ) แต่จุดเด่นของห้วยกุ๊บกั๊บก็คือ สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี จะฤดูไหนก็มีอากาศที่เย็นสบาย ยิ่งถ้าไปช่วง Green Season หรือช่วงหน้าหนาวด้วยแล้ว ก็จะได้เห็นทะเลหมอกแบบพาโนรามา แถมได้ชมวิวทิวเขาแบบ Unseen อีกด้วย
3. บ้านป่าบงเปียง จ.เชียงใหม่
จุดเด่นจอง “บ้านป่าบงเปียง จ.เชียงใหม่” คือการเป็นที่สุดของนาขั้นบันไดของเมืองไทย ที่ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จัก ซึ่งเสน่ห์ของบ้านป่าบงเปียงก็คือ การได้สัมผัสกับวิถีชาวบ้านแท้ ๆ พร้อมกับธรรมชาติที่งดงาม โดยเฉพาะวิวทุ่งนาที่เขียวขจี และที่สำคัญคือ ราคาที่พักนั้นถูกมาก ๆ เฉลี่ยเพียงแค่หลักร้อยเท่านั้น และที่พักก็จะเป็นโฮมสเตย์เสียส่วนใหญ่ ไม่มีแอร์หรือเครื่องปรับอากาศ เน้นการอยู่กับธรรมชาติแบบแท้ ๆ และหากใครมีแพลนอยากไปสัมผัสกับอากาศหนาวที่ดอยอินทนนท์ก็ง่าย เพราะมีระยะทางห่างกันเพียง 19 กิโลเมตรเท่านั้น
รวมพื้นที่ให้บริการ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า จ.เชียงใหม่
- ปั๊มน้ำมัน Caltex Gen Station ประเภท DC จำนวน 2 หัวจ่าย
- ปั๊มน้ำมัน Caltex ทิน-ทังสเตน ถ.เชียงใหม่-ดอยสะเก็ด ประเภท DC จำนวน 2 หัวจ่าย
- ห้างสรรพสินค้า Central Chiangmai Airport ประเภท AC 7kW จำนวน 3 หัวจ่าย
- ห้างสรรพสินค้า Central Chiangmai Festival ประเภท AC 7kW จำนวน 4 หัวจ่าย
- ห้างสรรพสินค้า Wasabi Park Chiangmai ประเภท AC 22kW จำนวน 2 หัวจ่าย
- อาคารสำนักงาน บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต
- คณะวิศวกรรมศาสตร์ มช. (CMU by Toyota) ประเภท AC 7kW จำนวน 1 หัวจ่าย
- บริษัท เชียงใหม่สวีเดนมอเตอร์ จำกัด (Volvo Chiangmai) ประเภท DC 150kW จำนวน 2 หัวจ่าย และ AC 22kW จำนวน 1 หัวจ่าย
- โรงแรมบุรีศรีปิง ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ประเภท AC 7kW จำนวน 1 หัวจ่าย
4. ดอยเสมอดาว จ.น่าน
ถ้าใครอยากชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นแบบสวย ๆ เห็นทะเลหมอกแบบฟิน ๆ ก็ต้องปักหมุดกันที่ “ดอยเสมอดาว จ.น่าน” เพราะถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยมาก ๆ แห่งหนึ่งของภาคเหนือ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 888 เมตร แต่มีวิวทิวทัศน์ที่ไม่แพ้กับจุดชมวิวอื่น ๆ โดยเฉพาะความงดงามของยอดเขาน้อยใหญ่โดยรอบ รวมถึงแม่น้ำน่านที่อยู่เบื้องล่าง เรียกว่าใครเป็นสายชิลและสายเสพวิวจากธรรมชาติต้องไม่พลาด
โดยทางอุทยานจะเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถมากางเต็นท์ชมวิวได้ในช่วงเดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ ของทุกปี และหากใครอยากเก็บวิวสวย ๆ ก็อย่าลืมไปปักหมุดกันที่จุดชมวิว 360 องศา ที่ผาหัวสิงห์ ที่อยู่ด้านซ้ายสุดของลานดูดาว บอกเลยว่าจุดนี้เป็นอีกหนึ่ง Unseen ที่ใครได้มาก็ต้องประทับใจอย่างแน่นอน
5. เด่นช้างนอน จ.น่าน
แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของสายเดินป่าและตั้งแคมป์ก็ต้องยกให้กับ “เด่นช้างนอน” ของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา จ.น่าน ที่ต้องไปตะลุยและพิชิตยอดเขา 1,600 เมตร และ 1,700 เมตร โดยเป็นเส้นทางเดินป่าที่มีระยะทาง 18 กิโลเมตร ระยะทางที่เดินก็มีทั้งทางเลียบผา ที่มีทั้งความสูงและสวยไปพร้อม ๆ กัน
เรียกได้ว่า ใครเป็นสายเดินป่าต้องลองไปลุยกันสักครั้ง เพราะวิวที่นี่ถือว่าเป็นหนึ่งใน Signature ที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนต้องมา เพราะไม่ใช่แค่วิวทิวเขาที่งดงามเท่านั้น แต่ยังสามารถชมวิวได้แบบพาโนราม่าอีกด้วย ส่วนใครที่อยากไปพิชิตเด่นช้างนอนก็ต้องจองก่อนไป โดยจะมีรอบการจองอัปเดตผ่านทางเพจอุทยานฯ
6. สิงห์ปาร์ค จ.เชียงราย
ใครเป็นสายถ่ายรูปและชื่นชอบการ Check-in ก็ต้องปักหมุดกันที่ “สิงห์ปาร์ค เชียงราย” แลนด์มาร์กที่มีจุดเด่นคือ สิงห์ยักษ์สีเหลืองทองขนาดใหญ่บริเวณด้านหน้า โดยภายในมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะการนั่งรถรางชมไร่ที่มีพื้นที่มากกว่า 8,000 ไร่ โดยภายในไร่ก็มีพืชพรรณนานาชนิดให้ได้เยี่ยมชมกัน รวมถึงไร่ชาอู่หลงที่ปลูกเป็นแถวสวยงาม เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปที่ใครหลาย ๆ คนไม่ควรพลาด เมื่อได้เดินทางมาที่สิงห์ปาร์ค จ.เชียงราย และหากใครที่เป็นสายชิมชาก็สามารถเดินทางต่อไปยัง “ไร่ชาฉุยฟง” ได้เช่นกัน บอกเลยว่านอกจากจะได้วิวดีดีแล้ว ยังได้ชิมชาอร่อย ๆ และขนมยอดฮิตอีกหลากหลายเมนูอีกด้วย ที่สำคัญคือ เดินทางง่ายมาก ๆ เพราะมีระยะทางห่างกันเพียงแค่ 53 กิโลเมตร เท่านั้น
รวมพื้นที่ให้บริการ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า จ.เชียงราย
- ปั๊มน้ำมัน Caltex NBB Property ประเภท DC 150kW จำนวน 2 หัวจ่าย
- ปั๊มน้ำมัน Cosmo Oil Tar Sut ประเภท DC 150kW จำนวน 2 หัวจ่าย
7. ทุ่งกิ๊ก จ.ลำพูน
ปิดท้ายกันด้วยอีกหนึ่งแหล่งนั่งชิลสำหรับสายตั้งแคมป์ นั่นก็คือ “ทุ่งกิ๊ก จ.ลำพูน” ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุยานแห่งชาติแม่ปิง มีพื้นที่มากกว่า 2,00 ไร่ ที่นักท่องเที่ยวจะได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติอันเงียบสงบ ยิ่งถ้าใครเป็นสายแคมป์ปิ้งด้วยแล้ว ที่นี่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดกางเต็นท์ที่ต้องไม่พลาด เพราะนอกจากจะได้ชมกับธรรมชาติอันเขียวขจีแล้ว ยังได้ชมดอกไม้ป่านานาชนิดที่หาชมได้ยาก ซึ่งหากวันไหนที่ท้องฟ้าเปิดมาก ๆ ก็จะได้เห็นดวงดาวมากมาย ส่วนใครที่อยากไปชมธรรมชาติและพันธุ์ไม้ ก็มีจุดให้ศึกษาธรรมชาติหลายจุด หนึ่งในนั้นคือ การศึกษาพันธุ์กล้วยไม้เหลืองแม้ปิง
รวมพื้นที่ให้บริการ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า จ.ลำพูน
- ปั๊มน้ำมัน Caltex บจก.เจริญกิจออยล์ ประเภท DC 150kW จำนวน 2 หัวจ่าย
แอ่วเหนือหนาวนี้ให้ม่วนใจ๋ ด้วยบริการสถานีชาร์จรถไฟฟ้า Evolt
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือที่ทาง Evolt นำมารีวิวนั้น เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของสถานที่ยอดฮิตและเหมาะสำหรับการไปพักผ่อนในช่วง Cold Season นี้เท่านั้น เพราะจริง ๆ แล้ว ยังมีอีกหลายสถานที่ที่น่าไปพักผ่อน และสำหรับชาวแก๊ง EV ที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าในการเดินทางก็ไม่ต้องกังวล เพราะสามารถ “ค้นหาสถานีชาร์จรถไฟฟ้า” ที่อยู่ใกล้เคียงสถานที่ท่องเที่ยวได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้วยบริการค้นหาจุดชาร์จรถ EV ผ่านทางแอปฯ ค้นหาสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ของทาง Evolt ที่นอกจากจะหา สถานีชาร์จรถไฟฟ้า ภาคเหนือ ได้ครบทุกสถานีแล้ว ยังมีแผนที่สถานีชาร์จรถไฟฟ้าทั่วประเทศให้อัปเดตกันตลอดเวลา จะเที่ยวที่ไหนก็สามารถเลือกใช้บริการที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของอีโวลท์ได้ทุกที่ทั่วไทย เช่น สถานีชาร์จรถไฟฟ้า ภาคใต้ หรือหากใครเดินทางไปแหล่งท่องเที่ยวที่ทางเราแนะนำไป ก็สามารถกดลิงก์แผนที่สถานีชาร์จที่แนบไว้ให้ได้เลย แล้วดูว่าพื้นที่ไหนใกล้และสะดวกที่สุด
