เช็กให้ชัวร์ก่อนใช้! วิธีเช็กสถานีชาร์จรถ EV ก่อนการใช้งาน
ก่อนเริ่มต้นใช้งานสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV Charger Station ผู้ใช้รถต้องรู้ วิธีเช็กสถานีชาร์จรถไฟฟ้า ว่ามีความพร้อมในการใช้งานหรือไม่ แล้วอุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถใช้งานได้เลยไหม มีจุดไหนผิดปกติหรือว่าชำรุดเสียหายหรือไม่ เพราะฉะนั้น ทาง Evolt Technology จะมาแนะนำ How – To ขั้นตอนการเช็กสถานีชาร์จรถ EV แบบง่าย ๆ ว่าต้องดูอย่างไร แล้วสถานีชาร์จ EV ที่ดีต้องผ่านมาตรฐานอะไรบ้าง?
เลือกอ่านตามหัวข้อ
3 สิ่งที่ต้องเช็ก ก่อนใช้งานสถานีชาร์จรถไฟฟ้า
1. มาตรฐานของสถานีชาร์จรถ EV
ในปัจจุบันนี้ต้องยอมรับเลยว่า สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า มีให้บริการเป็นจำนวนมาก และมีการขยายพื้นที่ให้บริการแบบหน้ากว้างอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ทันกับการเติบโตของตลาดรถ EV ในเมืองไทย ดังนั้น จึงต้องมีการกำหนดมาตรฐานของสถานีชาร์จเอาไว้ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยมาตรฐานของสถานีชาร์จ EV ต้องมีนั้น ก็มีทั้งมาตรฐานอุปกรณ์ไฟฟ้า ที่อ้างอิงจากมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมไทย (มอก.) มาตรฐานการติดตั้งระบบและอุปกรณ์ไฟฟ้าของสถานีชาร์จ ตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ. หรือ IEC)
โดยมาตรฐานของสถานีชาร์จ EV ต้องมีนั้น ก็มีทั้งมาตรฐานอุปกรณ์ไฟฟ้า ที่อ้างอิงจากมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมไทย (มอก.) มาตรฐานการติดตั้งระบบและอุปกรณ์ไฟฟ้าของสถานีชาร์จ ตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ. หรือ IEC)
และที่ขาดไม่ได้คือ มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้า สำหรับผลิตภัณฑ์จ่ายไฟยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อการอัดประจุไฟฟ้าสำหรับประเภทสถานีอัดประจุไฟฟ้า โดยมาตรฐานดังกล่าวนี้จะต้องเป็นไปตามเกณฑ์การติดตั้งของการไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ที่มีการกำหนดหลักการและแนวทางการติดตั้ง EV Charger เอาไว้อย่างชัดเจน
โดยทุก ๆ สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า จะต้องมีมาตรฐานดังกล่าวนี้เสมอ และในบางสถานีหรือบางผู้ให้บริการ ก็อาจจะได้รับการยอมรับและการรับรองมาตรฐานการติดตั้ง EV Charger Station จากองค์กรอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน อาทิ ทาง Evolt Technology ที่ได้รับการการันตีมาตรฐานการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจากทาง Tesla ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งการการันตีถึงมาตรฐานที่ผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าสามารถมั่นใจได้ เมื่อเลือกใช้บริการจุดชาร์จรถ EV ของทางอีโวลท์
2. สถานีชาร์จต้องมีการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ
วิธีการตรวจเช็กความพร้อมของสถานีชาร์จรถ EV ก่อนใช้งาน ก็คือการบำรุงรักษาของทีมงานหรือผู้ให้บริการ ที่จะต้องมีทีมงานเข้ามาตรวจสอบอุปกรณ์และความพร้อมในการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งโดยปกติแล้วต้องมีการตรวจเช็กทุก ๆ 6 เดือน (หรือน้อยกว่า) เพื่อให้เครื่องชาร์จมีความพร้อมในการใช้งานได้ตลอดเวลา
โดยทางทีมงานที่เข้ามาตรวจเช็กจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า จะมีทั้งการทดสอบการชาร์จของหัวชาร์จรถ EV, การตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เกี่ยวข้อง และที่ขาดไม่ได้คือ การตรวจสอบระบบไฟฟ้าที่ใช้ของสถานีนั้น ๆ ว่าสามารถจ่ายไฟได้ดีหรือไม่ แรงดันไฟฟ้าเป็นอย่างไร เป็นต้น เพราะฉะนั้น ก่อนเลือกใช้บริการจุดชาร์จไฟแต่ละพื้นที่ ผู้ใช้งานจะต้องมั่นใจแล้วว่า ผู้ให้บริการของสถานีนั้น ๆ มีการเข้ามาตรวจเช็กสถานีชาร์จอย่างสม่ำเสมอ
3. ความพร้อมในการใช้งานของตู้ชาร์จไฟ
- สถานที่ชาร์จไฟมีความปลอดภัย โดยเฉพาะหากชาร์จไฟในหน้าฝน ที่ควรเลือกจุดชาร์จที่มีหลังคากำบังฝน หรือไม่มีน้ำท่วมขังบริเวณจุดชาร์จไฟ
- มั่นใจว่าตู้ชาร์จมีการติดตั้งระบบตัดไฟรั่วและลงสายดิน มีมาตรฐาน IEV 61851 และ IEC 62752
- อุปกรณ์ของเครื่องชาร์จ เช่น สาย และหัวชาร์จ ต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ไม่มีร่องรอยชำรุดเสียหาย
- เครื่องชาร์จไฟมีสถานะบอกอย่างชัดเจนว่าพร้อมใช้งานหรือไม่ ซึ่งโดยปกติจะมีไฟแสดงสถานะเสมอ
หมายเหตุ : นอกเหนือจากการตรวจเช็กความพร้อมในการใช้งาน ของเครื่องชาร์จตามสถานีชาร์จรถไฟฟ้าแล้ว อีกหนึ่งมาตรฐานที่ผู้ใช้รถควรรู้จักคือ มาตรฐานการกันน้ำและฝุ่น (IP) ที่ EV Charger ต้องมี
ใช้สถานีชาร์จได้อย่างปลอดภัย ด้วยจุดชาร์จรถ EV จากอีโวลท์
สำหรับผู้ใช้รถที่เลือกใช้บริการสถานีชาร์จของทาง Evolt ไม่ว่าจะเป็นสถานีชาร์จในพื้นที่ต่าง ๆ หรือจุดชาร์จไฟของทางพาร์ทเนอร์ที่ลงทุนกับทางเราที่มีให้บริการหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ก็สามารถมั่นใจในการใช้งานได้ทุกครั้ง เพราะการติดตั้ง EV Charger ในทุกสถานีนั้น ผ่านการรับรองและมาตรฐานทั้งจาก PEA, MEA และ ERC ที่มีการกำหนดรูปแบบการดำเนินธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้าอย่างชัดเจน เพื่อความปลอดภัยและความเชื่อมั่นต่อผู้ใช้รถปยนต์ไฟฟ้าทุกคน และที่สำคัญคือ ทุกการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ดำเนินการโดยทีมงานที่มากประสบการณ์ และวิศวกร EV ที่ผ่านการรับรองจากสภาวิศวกรโดยเฉพาะ
