โอกาสใหม่ของธุรกิจโลจิสติกส์ ด้วยโมเดล “EV Fleet” เพื่อความยั่งยืน
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ธุรกิจโลจิสติกส์ เป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีความสำคัญต่อธุรกิจเกือบทุกประเภท เพราะฉะนั้น การจัดการระบบหลังบ้านขององค์กรที่ทำธุรกิจโลจิสติกส์หรือขนส่ง จึงต้องมีการจัดการธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ มีการจัดการโลจิสติกส์ที่แม่นยำ โดยเฉพาะต้นทุนสินค้า ต้นทุนการขนส่ง ความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ และที่ขาดไม่ได้คือ การแข่งขันในตลาด ซึ่งในปัจจุบันนอกจากธุรกิจโลจิสติกส์ เดลิเวอรี่ และคลังสินค้า จะต้องนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาช่วยบริหารและจัดการธุรกิจอย่างครบวงจรแล้ว ก็ยังต้องให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมด้วยเช่นกัน เพื่อนำไปสู่ความเชื่อมั่น ความสามารถในการแข่งขันและประสิทธิภาพของการให้บริการที่เหนือกว่า
เลือกอ่านได้เลย
ความสำคัญของ “ธุรกิจโลจิสติกส์” ที่มีต่อสังคม
คำว่า ธุรกิจโลจิสติกส์ (Logistics) คือ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับระบบการจัดส่งสินค้า สิ่งของ หรือทรัพยากรอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยธุรกิจโลจิสติกส์จะครอบคลุมทั้งการวางแผน การดำเนินการ การจัดเก็บ การควบคุม การบรรจุ การจัดส่งทั้งไป – กลับ จากต้นทางไปจนถึงปลายทาง โดยทุกกระบวนการจะต้องมีความเหมาะสม ทั้งในแง่ของระยะเวลา คุณภาพ ต้นทุน และสถานที่ เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด
แน่นอนว่า ธุรกิจโลจิสติกส์ จึงเปรียบได้กับหัวใจหลักของ Supply Chain เพราะถือเป็นฟันเฟืองหลักของระบบการดำเนินงานต่าง ๆ ของอุปทานให้เคลื่อนที่ไปได้อย่างราบรื่น ดังนั้น การจัดการโลจิสติกส์จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ทั้งการบริหารจัดการที่ดี ไม่ส่งผลกระทบต่อองค์กร ไม่ว่าจะเป็นในส่วนใด ๆ ก็ตาม อาทิ การจัดส่งสินค้าที่ล่าช้า หรือการขนส่งที่ซ้ำซ้อนในเส้นทางเดียวกัน จนทำให้มีต้นทุนในการดำเนินงาน ที่สูงขึ้น แล้วนำไปสู่การเพิ่มอัตราค่าบริการขององค์กร รวมถึงภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อผู้ใช้บริการเช่นกัน
ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะคลังสินค้าที่หลังจากเศรษฐกิจของไทยเริ่มฟื้นตัว การส่งออกก็เริ่มขยายตัวมากขึ้น และที่สำคัญคือ ทางรัฐบาลเองก็มีโครงการต่าง ๆ ที่ช่วยผลักดันและเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการโลจิสติกส์ และห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรม
ทำธุรกิจโลจิสติกส์ในยุคดิจิทัลให้เติบโต ด้วยโมเดล EV Fleet
จะเห็นได้เลยว่า ธุรกิจโลจิสติกส์นอกจากจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีการแข่งขันที่สูงแล้ว การบริหารจัดการโลจิสติกส์เองก็เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคง โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่หลาย ๆ องค์กร ต่างหันมาให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จนทำให้เกิดหลักการทำธุรกิจที่เรียกว่า “ESG” ที่จะใช้หลักปฏิบัติ 3 ปัจจัย คือ สิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) ดังนั้น ตัวแปรที่ตามมาคือการให้ความสำคัญต่อ รวมถึง Carbon Credit ที่เป็นอีกหนึ่งเครื่องการันตีความมั่นคงของธุรกิจได้ในระยะยาว
“Carbon Credit (คาร์บอนเครดิต) คือ การนำกลไกการตลาดมาใช้เพื่อช่วยให้องค์กรหรือภาคธุรกิจ หันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยมีผลดีทั้งระยะสั้นและระยะยาว หนึ่งในนั้นคือลดความเสี่ยงจากการถูกปรับค่าธรรมเนียมการปล่อยก๊าซ ทั้งยังเพิ่มภาพลักษณ์ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม”
โมเดลธุรกิจ EV Fleet ที่ส่งผลต่อความมั่นคงของโลจิสติกส์
แน่นอนว่า จากเทรนด์ธุรกิจในยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมนี้เอง จึงทำให้หลาย ๆ ธุรกิจหันมาใช้โมเดล EV Fleet Solutions กันมากขึ้น โดยเฉพาะการดูแลรถภายในองค์กรและรถเชิงพาณิชย์แบบครบวงจร โดยรูปแบบของ EV Fleet ก็คือการเปลี่ยนธุรกิจฟลีทแบบปกติที่ใช้น้ำมัน ให้หันมาใช้ฟลีทยานยนต์ไฟฟ้าแทน หรือก็คือระบบ EV Fleet Management นั่นเอง
ข้อดีของการทำธุรกิจโลจิสติกส์ด้วยการเปลี่ยนมาใช้ EV Fleet ก็คือ ช่วยให้ควบคุมการใช้งานยานพาหนะในองค์กรได้ง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ อาทิ Telematics สำหรับการติดตามการขับขี่ของพนักงาน นอกจากนี้ การหันมาใช้พลังงานไฟฟ้าก็ยังช่วยให้ธุรกิจมีต้นทุนที่ถูกลงหลายเท่าตัวเช่นกัน เพราะไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่ผันผวนตามราคาตลาดโลก หรือแม้แต่ค่าบำรุงรักษารถที่ใช้ในธุรกิจโลจิสติกส์ เช่น รถยนต์เชิงพาณิชย์ (Commercial Vehicle)
แน่นอนว่า EV Fleet ยังช่วยให้การดำเนินงานของโลจิสติกส์ง่ายมากขึ้น เพราะโมเดลนี้จะมาพร้อมกับการออกแบบและการวางแผนเส้นทางการชาร์จไฟของรถ EV ที่ใช้ในธุรกิจที่เป็นระบบ มีการติดตั้ง EV Fleet Charging ประเภท DC Charger ที่เหมาะสมกับเส้นทางการเดินรถขององค์กร ตลอดจนการพัฒนา Dashboard ที่มีข้อมูลต่าง ๆ อย่างครอบคลุม ทั้งตำแหน่งรถ เส้นทางการเดินรถ อัตราการใช้พลังงาน เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งโซลูชั่นที่ครอบคลุมมาก ๆ ในการจัดการโลจิสติกส์ และที่ขาดไม่ได้คือ เป็นการนำเอาเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ภายในองค์กร ทำให้ลดภาระงานที่ซ้ำซ้อนออกไปได้ ทั้งยังช่วยให้การจัดการบัญชีง่ายยิ่งขึ้น
เพิ่มความน่าเชื่อถือได้มากกว่า ด้วยข้อมูล Carbon Credit
อีกหนึ่งเหตุผลที่ธุรกิจโลจิสติกส์ควรหันมาใช้ EV Fleet นั้น ส่วนหนึ่งก็คือเรื่องของ Carbon Credit ที่ในปัจจุบันหลาย ๆ องค์กรหันมาให้ความสำคัญกันมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดคาร์บอนเครดิตของธุรกิจต่าง ๆ ทั้งภาคสมัครใจ (Voluntary Carbon Market) และภาคบังคับ (Mandatory Carbon Market) ที่ส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่ว่าจะเป็น อุปสงค์ อุปทาน อัตราค่าบริการ และช่องทางในการซื้อ/ขาย โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย
จะเห็นได้เลยว่า การลงทุนกับประเทศหลาย ๆ ประเทศ โดยเฉพาะประเทศทางยุโรปนั้น จะให้ความสำคัญด้าน Carbon Credit เป็นอันดับต้น ๆ ในการลงทุนแบบ B2B เพราะมีผลต่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของแต่ละประเทศโดยตรง ซึ่งแต่ละประเทศต่างก็มีระยะเวลาในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero)
ดังนั้น ในภาคธุรกิจเองก็ย่อมมีบทบาทไม่แพ้กัน ทั้งในแง่ของการให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม และที่ขาดไม่ได้คือ “มาตรการจัดเก็บภาษีการปล่อยคาร์บอนหรือก๊าซเรือนกระจก” ซึ่งก็เป็นหนึ่งในกรอบแนวคิดของ Environment Trend เช่นกัน นั่นหมายความว่า ธุรกิจใดก็ตามที่ปรับตัวและหันมาให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้นก็ย่อมมีต้นทุนที่น้อยลง แต่หากธุรกิจใดที่ไม่ได้ให้ความสำคัญในด้านนี้ ก็อาจจะกลายเป็นอุปสรรคทางด้านการค้าหรือการประกอบธุรกิจได้
เริ่มต้นโมเดลธุรกิจ Fleet Charging กับ Evolt อย่างยั่งยืน
แน่นอนว่า การทำธุรกิจโลจิสติกส์ด้วยโมเดล Fleet Charging เอง ก็เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของทาง Evolt Technology ที่ต้องการผลักดันให้ธุรกิจยุคใหม่หันมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถ EV กันมากขึ้น เราจึงได้พัฒนาการให้บริการด้านฟลีทสำหรับธุรกิจโลจิสติกส์และธุรกิจฟลีทแบบครบวงจร ที่มีการให้คำแนะนำด้านการทำธุรกิจและการลงทุนอย่างเป็นระบบ
โดยมีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้กับธุรกิจที่แตกต่างกัน เพื่อให้ธุรกิจโลจิสติกส์ได้รับความคุ้มค่ามากที่สุด เมื่อเปลี่ยนมาใช้โมเดล Fleet Charging เพื่อรองรับการใช้รถฟลีทในองค์กร โดยทางอีโวลท์มีการดูแลและวางโมเดล EV Fleet Charging ที่ครอบคลุมทั้งลูกค้าที่เป็นองค์กรขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ ด้วยการวางแผนการชาร์จจากเส้นทางการเดินรถที่ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น รถขนส่งสินค้า รถขนส่งอาหาร รถสำหรับใช้ในองค์กร ฯลฯ
และที่สำคัญก็คือ ทาง Evolt ยังให้ความสำคัญในการพัฒนาซอฟต์แวร์และระบบการชาร์จทั้งแบบ AC และ DC ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโลจิสติกส์ประเภทใด ก็จะมีทีมงานที่มีประสบการณ์ในด้าน IT และวิศวกรที่มีใบประกอบวิชาชีพวิศวกร ช่วยดูแลด้านการพัฒนาระบบต่าง ๆ ในพื้นที่ติดตั้งอย่างครอบคลุม รวมถึงการเลือกประเภทหัวชาร์จที่เหมาะสมต่อธุรกิจโลจิสติกส์ โดยเราจะมีการติดตามผลการดำเนินงาน ไปพร้อม ๆ กับการทดสอบระบบต่างอย่างละเอียด เพื่อให้ระบบที่ใช้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความยั่งยืนมากที่สุด ด้วยโมเดล EV Charging Solutions นั่นเอง