ภาพรวมตลาดรถยนต์ EV 2026 ไทยอาจขึ้นแท่นศูนย์กลางผลิตรถ EV!
ในปัจจุบันตลาดรถยนต์ไฟฟ้า EV ในไทย ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงพอสมควร ทั้งการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ และการจัดแคมเปญต่าง ๆ จากแบรนด์รถยนต์ ยังไม่นับรวมกับภาษีสรรพสามิต ที่จะเปลี่ยนแปลงและเริ่มใช้ใหม่ในวันที่ 1 มกราคม 2569 ที่กำลังจะถึงนี้ เพราะฉะนั้น เราจะพาคุณมาเจาะลึกกันว่า แนวโน้มของภาพรวมตลาดรถ EV ในไทย ปี 2026 มีประเด็นไหนบ้างที่น่าสนใจ และไทยจะขึ้นแท่นเป็นศูนย์กลางการผลิตรถ EV ได้จริงหรือไม่?
เลือกอ่านตามหัวข้อ
ตลาดรถยนต์ EV เตรียมพลิกโฉมครั้งใหญ่ ค่ายจีนครองตลาด
ในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้เลยว่า ก่อนหน้าตลาดรถยนต์ในไทยมียอดขายรวมต่ำสุดในรอบ 10 ปี แต่หากดูในมุมของรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว กลับโตสวนทางจนกลายเป็นม้ามืดของอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทย ซึ่งจากการวิจัยของทาง IPSOS ในประเด็นของ Thailand Auto Trend The Rise of Pure Electric Cars ก็ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของตลาดรถยนต์อย่างชัดเจน หนึ่งนั้นคือ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ที่หันมาเปลี่ยนใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดรถ EV ปี 2026 มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง
รถยนต์ไฟฟ้า EV โตสวนทางกับภาพรวมของตลาด
สำหรับยอดขายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 มียอดขายกว่า 67,000 คัน เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับปีก่อน และคิดเป็นสัดส่วน 40.2% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด ส่วนในช่วงกลางปี 2568 หรือครึ่งปีแรก รถยนต์ไฟฟ้าทั้งประเภท EV ไฮบริด เติบโตถึง 21.8% จากปีก่อน คิดเป็น 43.8% ของยอดขายรวม
ส่วนทางด้านรถยนต์ไฟฟ้า BEV (ใช้ไฟฟ้า 100%) ก็นับว่าเติบโตแบบพุ่งทะยานไม่แพ้กัน เพราะเติบโตกว่า 50% ทำให้เห็นว่าเทรนด์ผู้บริโภคเปลี่ยนไป และหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะในตลาดรถ EV ตอนนี้ มีตัวเลือกรถยนต์ให้เลือกหลากหลาย ทั้งกลุ่มรถยนต์ซีดาน, รถอเนกประสงค์ รวมถึงรถกระบะไฟฟ้า ที่ก็เริ่มมีการเปิดตัวและจำหน่ายแล้ว เช่น Riddara RD6 หรือแม้แต่ Isuzu D-Max EV ที่ก็น่าจะบุกตลาดรถในไทยเร็ว ๆ นี้เช่นกัน
ยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Show ค่ายรถจีนครองตลาด
อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมาก ๆ ของตลาดรถในไทย ก็คือยอดจองรถยนต์ใหม่ในงาน Motor Show 2025 ที่ผ่านมา โดยยอดจองทั้งหมดอยู่ที่ 77,379 คัน เติบโตขึ้นถึง 44.8% แต่ที่ทำให้มั่นใจได้ว่า รถยนต์ EV เริ่มได้รับความเชื่อมั่นกว่าแต่ก่อน ก็คือการที่รถยนต์ค่าย BYD / DENZA สามารถทุบสถิติล้มเจ้าใหญ่ในตลาดรถของไทยอย่าง Toyota ลงได้
โดยในงาน Motor Show รถยนต์ไฟฟ้าสามารถสร้างสถิติ ด้วยยอดจองทั้งหมด 10,353 คัน ในขณะที่ทาง Toyota ปิดยอดจองไป 9,819 คัน และในบรรดา 5 แบรนด์ที่สร้างยอดขายสูงสุด เป็นแบรนด์รถยนต์ EV ถึง 3 ค่าย ได้แก่ BYD / DENZA, GAC และ Deepal ส่วนทาง Toyota และ Honda ก็ยังคงอยู่ใน 5 อันดับแรกที่ครองยอดขายสูงสุดเช่นเดิม
และแน่นอนว่า ในงาน Motor Expo 2025 นี้ แบรนด์รถยนต์หลายแบรนด์ ก็ลุยตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์พลังงานทางเลือกกันมากขึ้น ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ Toyota ที่เปิดตัวรถกระบะรุ่นใหม่อย่าง Toyota Hilux Travo – e BEV ซึ่งเป็นรถกระบะไฟฟ้า 100% คันแรกของทางพี่ใหญ่ ด้วยราคา 1,491,000 บาท ซึ่งก็สร้างเสียงฮือฮาและสร้างกระแสได้ดีเช่นกันในตลาดรถ EV เพราะนี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ที่ทำให้เห็นว่ารถ EV จะได้รับความนิยมและใช้กันมากขึ้นในไทย
พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ด้วยเทรนด์ Go Green ของ GEN Y
จากการวิจัยและสำรวจของทาง IPSOS ยังได้อธิบายเพิ่มเติมอีกด้วยว่า พฤติกรรมของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ที่เริ่มหันมามองรถยนต์ไฟฟ้า BEV เป็นตัวเลือกมากขึ้นถึง 34% ซึ่งเหตุผลที่ทำให้เลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้า ก็คือความคุ้มค่าของราคาและฟังก์ชันในการใช้งาน ทั้งยังได้รับอิทธิพลต่อเทรนด์ Sustainability หรือเทรนด์ Go Green ที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมด้วย จึงทำให้รถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นตัวเลือกแรก ๆ ของกลุ่ม Gen Y
ผู้บริโภคมั่นใจต่อรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ส่งผลให้ตลาดรถ EV โต
ถึงแม้ว่าผู้บริโภคบางกลุ่ม ยังคงกังวลเรื่องการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาเรื่องระยะทางในการขับขี่ หรือ Range Anxiety, ความปลอดภัยในการใช้งาน, ค่าใช้จ่ายแฝงและค่าประกันภัยรถ EV ตลาดจนโครงสร้างพื้นฐานของสถานีชาร์จ หรือ EV Charging Station แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ความกังวลดังกล่าวนี้ลดน้อยลงกว่าช่วงแรกอย่างเห็นได้ชัด
อย่างเช่น ประเด็นของ Range Anxiety หรือภาวะกลัวแบตหมดกลางทาง ก็สามารถแก้ไขหรือรับมือได้ เมื่อเลือกรถยนต์ไฟฟ้าที่มีสเปกที่เพียงพอต่อการใช้งานจริง และยังสามารถตรวจเช็กระยะทางในการขับขี่จริงได้จากมาตรฐานระยะทางการขับขี่ ที่มีการวัดระยะทางจากการทดสอบในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น NEDC, WLTP และ CLTC
นอกจากนี้ การขยายพื้นที่ให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสาธารณะ หรือ EV Charging Station ก็มีการขยายพื้นที่ให้บริการแบบหน้ากว้างในหลาย ๆ พื้นที่ ไม่ได้จำกัดเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมยังเมืองท่องเที่ยว เมืองรอง และต่างจังหวัดอย่างทั่วถึง ทำให้ความกังวลเรื่องระยะทางในการขับขี่ลดน้อยลง วางแผนการเดินทางและการชาร์จไฟได้ง่ายขึ้น ทั้งยังค้นหาสถานีชาร์จได้ผ่านทางแอปฯ ที่มีให้บริการได้เช่นกัน
ตลาดรถไฟฟ้าเติบโต ไทยลุ้นเป็น HUB การผลิตรถ EV ได้จริง!
จากปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการเติบโตของตลาดรถยนต์ EV ในปี 2025 นี้ ก็น่าจะทำให้เห็นภาพรวมของตลาดรถยนต์ในปี 2026 เช่นกัน ว่าจะเติบโตมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว และจากรายงานของทาง IPSOS ก็มองว่า เป้าหมายที่รัฐบาลไทยอยากผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EV ของภูมิภาค ด้วยการผลิตรถ EV เป็น 30% ของรถยนต์ทั้งหมด พร้อมการเดินหน้าสู่เป้าหมาย 30@30 ภายในปี พ.ศ. 2573 ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมเช่นกัน
