Tips คนใช้รถยนต์ไฟฟ้า EV ฉบับโปร จะเดินทางใกล้หรือไกลก็ไร้กังวล!
การใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกเหนือจากการทำความเข้าใจระบบการทำงานของตัวรถแล้ว การวางแผนในการขับขี่ก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะการเดินทางไกลที่ต้องมีการค้นหา “สถานีชาร์จ” หรือจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเอาไว้ล่วงหน้า เพื่อนำไปใช้ประกอบการวางแผนการเดินทางได้อย่างรอบคอบมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้น Evolt Technology ก็ไม่พลาดที่จะมาแชร์ทุกทริกเด็ด ๆ ที่น่าสนใจ สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งใช้รถยนต์ไฟฟ้า ว่ามีอะไรบ้างที่ต้องรู้และเตรียมรับมือให้พร้อมในการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ
เลือกอ่านได้เลย

แชร์ทุกเรื่องน่ารู้ สำหรับคนใช้รถยนต์ไฟฟ้า EV มือใหม่
สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งใช้รถยนต์ไฟฟ้า EV หรือ BEV หรือผู้ที่กำลังลังเลว่าควรจะเลือกใช้รถยนต์พลังงานทางเลือกดีหรือไม่นั้น ความกังวลส่วนมากคือเรื่องจำนวน สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ว่าจะมีความเพียงพอต่อการใช้งานหรือไม่ โดยเฉพาะในช่วงเวลาการเดินทางไกล รองลงมาคือสเปกของตัวรถและการใช้งาน Option ต่าง ๆ ของรุ่นรถที่ใช้หรือสนใจ
1. ก่อนใช้รถยนต์ไฟฟ้า ต้องเข้าใจสเปกและข้อมูลของรถ
สิ่งที่ผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้ามักจะพูดกันบ่อย ๆ คือ หากเป็นมือใหม่หรือกำลังตัดสินใจว่า จะเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า EV ดีหรือไม่นั้น สิ่งสำคัญคือต้องรู้จักข้อมูลพื้นฐานของตัวรถและสเปกเสียก่อน เพราะรถยนต์พลังงานทางเลือกจะมีรูปแบบการใช้งานที่ต่างกัน เช่น หากเป็นรถ BEV จะทำงานด้วยการใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 100% และมอเตอร์ของรถแต่ละคันก็จะมีระยะเวลาการชาร์จที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับความจุแบตเตอรี่ที่ใช้ในการขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการเลือกหัวชาร์จตามสถานีชาร์จด้วย
2. ใช้รถยนต์ไฟฟ้าให้ดี ต้องรู้จักการรักษาความเร็วให้คงที่
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจในการใช้งานรถยนต์ EV นั่นก็คือ การประหยัดพลังงานของตัวรถ ด้วยการใช้ความเร็วให้คงที่ เรียกง่าย ๆ ว่า เป็นการดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้าทางอ้อม เพราะพฤติกรรมการขับขี่ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยประหยัดพลังงานได้ดี สามารถขับรถได้ในระยะทางที่มากขึ้น ทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้ด้วย เช่น การรู้จังหวะการเหยียบเบรกหรือไล่เบรกเพื่อสร้างพลังงาน ซึ่งเป็นเทคนิคที่คนใช้รถยนต์ไฟฟ้านิยมใช้กันมากที่สุด

3. การชาร์จแบตเตอรี่ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
มือใหม่หัดใช้รถยนต์ไฟฟ้า EV หลาย ๆ คน ก็คงจะมีความคิดที่คล้ายคลึงกันก็คือ ควรจะชาร์จไฟให้เต็มร้อยทุกครั้ง และสามารถชาร์จแบบ DC Charging ได้ตลอด แต่จริง ๆ แล้ว ยังมีเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ควรรู้ด้วย เมื่อต้องการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เพราะการชาร์จแบบ Fast Charge จะตอบโจทย์การชาร์จเมื่อเดินทางไกล แล้วแวะชาร์จไฟตามสถานีที่มีให้บริการระหว่างทาง หรือช่วงเวลาที่เร่งรีบ มากกว่าการชาร์จในชีวิตประจำวัน ที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่จะมีการติดตั้งเครื่องชาร์จที่บ้านเอาไว้อยู่แล้ว
- จำไว้เสมอว่าการชาร์จแบตทุกครั้ง ส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่เสมอ ดังนั้น ควรชาร์จไฟแค่พอเหมาะ ไม่ต้องบ่อยเกินไป เช่น หากปริมาณไฟฟ้ายังอยู่ที่ 60% ก็ยังไม่จำเป็นต้องชาร์จ หรือบางครั้งหากชาร์จไฟที่บ้านก็ไม่จำเป็นต้องชาร์จแบตทิ้งไว้ทั้งคืน
- อย่าปล่อยให้แบตเตอรี่ต่ำหรือเหลือเกือบ 0% บ่อย ๆ ควรรักษาช่วงการชาร์จให้อยู่ที่ 20% – 80% เพราะเป็นช่วงการชาร์จที่ทำให้แบตเตอรี่ทำงานได้ดี และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
- ควรหลีกเลี่ยงการชาร์จแบบเร็ว (DC Fast Charge) หรือในสภาวะที่อุณหภูมิสูงหรือต่ำมาก ๆ เพราะการเร่งปฏิกิริยาเคมีจะทำให้ชุดแบตเสื่อมสภาพได้เร็วกว่าปกติ
- การชาร์จแบตให้เต็ม 100% ไม่ได้ดีเสมอไป เพราะเสี่ยงต่อการทำให้แบตเสื่อมสภาพได้เร็ว ซึ่งจากการทดลองพบว่าการชาร์จไฟควรให้อยู่ระหว่าง 80% – 90% เพราะทำให้ระบบ Regenerative Braking หรือระบบเบรกเพื่อชาร์จไฟ สามารถทำงานได้ทันที
4. วางแผนการใช้งานรถดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
อีกหนึ่งวิธีการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า EV ที่ผู้ใช้งานมักจะแนะนำต่อ ๆ กันมากที่สุดก็คือ การวางแผนการใช้งานรถอย่างมีระบบ ไม่ว่าจะเป็น การหาจุดชาร์จในกรณีที่ต้องเดินทางไกล การคำนวณระยะทางในการขับขี่ และการไม่ปล่อยให้แบตเหลือ 0% หรือใกล้หมด เช่น หากพบว่าแบตเหลือประมาณ 25% – 30% ก็ควรมองหาสถานีชาร์จที่ใกล้เคียงเอาไว้แล้ว เพราะต้องเผื่อการเดินทางไปยังพื้นที่ให้บริการด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังมีรายละเอียดอื่น ๆ ในการใช้งานรถที่ไม่ควรมองข้ามด้วย ไม่ว่าจะเป็น ค่าชาร์จไฟของสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า, ค่าบำรุงรักษา และที่ขาดไม่ได้คือ ประกันรถยนต์ไฟฟ้า ตามที่ คปภ. อนุมัติเกณฑ์ประกันรถยนต์ไฟฟ้า BEV ฉบับปี 2567 ที่ผู้ใช้รถควรจะศึกษาเกณฑ์ดังกล่าวให้เข้าใจ เพราะมีรายละเอียดที่ส่งผลต่อเบี้ยประกันภัยโดยตรง ซึ่งก็นับว่าเป็นเทคนิคการใช้รถที่ผู้ใช้งานไม่ควรมองข้าม
5. ติดตั้งเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน ต้องเลือกผู้ให้บริการที่มีมาตรฐาน
จากการเติบโตของตลาดรถยนต์ EV ในเมืองไทย ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด และมีผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ผู้ให้บริการติดตั้งเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้านก็มีจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งการเลือกซื้อรถยนต์ BEV นั้น โดยส่วนมากแล้วทางค่ายรถยนต์มักจะมีแพ็กเกจติดตั้งเครื่องชาร์จที่บ้านให้ฟรี แต่ในขณะเดียวกันก็มีผู้ใช้รถหลาย ๆ คน ที่เลือกติดตั้ง Home Charger กับบริษัทที่รับติดตั้งโดยตรง เพราะมีความสะดวกมากกว่า และสามารถเลือกสเปกของเครื่องชาร์จได้
แน่นอนว่า การเลือกติดตั้งตู้ชาร์จรถ EV ที่บ้าน (Wall Charger หรือ Wall Box) นั้น เจ้าของบ้านจะต้องทำการติดตั้งมิเตอร์และระบบไฟฟ้า ที่สามารถรองรับการโหลดรวมของบ้านได้ ซึ่งบ้านที่มีการเพิ่มขนาดมิเตอร์จะต้องมีการปรับปรุงสายไฟ รวมถึงการเปลี่ยนเมนเบรกเกอร์ให้เหมาะสมต่อการใช้งาน โดยปกติแล้วควรจะเปลี่ยนขนาดมิเตอร์เป็น 30(100)Amp และอีกหนึ่งวิธีการประหยัดค่าใช้จ่ายได้จริงก็คือ การเปลี่ยนมิเตอร์เป็นแบบ TOU (Time of Use Tariff) นั่นเอง

วางแผนการเดินทางได้ง่าย ๆ ค้นหาสถานีชาร์จได้ไวแค่มีแอปฯ Evolt
อย่างไรก็ตาม การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในการเดินทางไกล หรือผู้ที่ใช้รถ BEV ที่ไม่ได้มีการติดตั้งเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าไว้ใช้ส่วนตัวนั้น สามารถวางแผนการชาร์จไฟได้ง่าย ๆ ด้วยการมีตัวช่วยอย่าง “แอปฯ ค้นหาสถานีชาร์จ Evolt” ที่สามารถค้นหาจุดชาร์จรถได้แบบ Real Time ทั่วประเทศไทย โดยเฉพาะพื้นที่ที่ใกล้คุณมากที่สุด
ซึ่งข้อดีของการใช้งานแอปฯ Evolt นอกจากการค้นหาสถานีชาร์จได้อย่างรวดเร็วแล้ว ยังสามารถดูอัตราค่าบริการได้ทุกสถานี มีสถานะบอกทุกพื้นที่ ที่สำคัญคือ มีรูปแบบการชาร์จให้เลือกทั้งแบบ AC และ DC เพื่อรองรับการใช้งานอย่างครอบคลุมที่สุด และหากต้องการเดินทางไปยังจุดชาร์จรถที่ต้องการใช้ ก็สามารถใช้ระบบนำทางด้วย Google Maps ได้ทันที
ติดตั้งเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าวันนี้ ด้วยทีมงานมืออาชีพจาก PlugHaus!
สำหรับผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า EV ที่ต้องการติดตั้งเครื่องชาร์จไฟที่บ้าน เพียงเลือกติดตั้ง Home Charger กับทาง PlugHaus Thailand วันนี้ สามารถมั่นใจได้มากกว่า ด้วยมาตรฐานการติดตั้งจาก PEA และ MEA ที่จะช่วยให้ผู้ใช้รถชาร์จไฟได้อย่างปลอดภัยและไร้กังวล โดยการติดตั้งเครื่องชาร์จทุกรุ่นของทาง Plug Haus จะมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ในการติดตั้ง พร้อมให้คำแนะนำอย่างละเอียด ที่สำคัญคือ มีเครื่องชาร์จให้เลือกหลากหลายรุ่น สามารถใช้งานได้ทั้งระบบไฟฟ้า 1 เฟส และ 3 เฟส จะเลือกรุ่นไหนก็ตอบโจทย์คนใช้รถ EV ได้จริง!