แนวโน้ม ตลาดรถ EV ในไทย และความคุ้มค่าเมื่อเลือกลงทุนกับ Evolt
ในปัจจุบันนับได้ว่า ตลาดรถ EV ในประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งตลาดที่เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะในยุคที่คนในสังคมต่างก็หันมาให้ความสนใจต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ตลอดจนมาตรการการสนับสนุนจากภาครัฐและองค์กรต่าง ๆ ทำให้แนวโน้มของ ตลาดรถ EV ในไทย รวมถึงต่างประเทศเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับอุตสาหกรรมตลาดรถยนต์ที่หลาย ๆ แบรนด์รถต้องเผชิญกับปัญหาปริมาณการขายที่ลดน้อยลง ในขณะที่ค่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้ากลับได้รับความนิยมมากขึ้น
เลือกอ่านได้เลย
การเติบโตของตลาดรถ EV ในไทย และภาพรวมตลาดในปี 2023
จากการสำรวจของ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP Research) พบว่า การเติบโตของ ตลาดรถ EV ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา มีปริมาณการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV : Electric Vehicle) ที่ขยายตัวอย่างก้าวกระโดด หากเทียบกับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยการใช้เครื่องยนต์สันดาป (ICE : Internal Combustion Engine) ซึ่งหากเทียบจากยอดขายรถยนต์ EV ทั่วโลก สามารถทำยอดขายได้สูงสุดถึง 2 ล้านคัน ในปี 2018 จนกระทั่งในปี 2020 ที่เพิ่มขึ้นเป็น 3.2 ล้านคัน ซึ่งคิดเป็นอัตราการขยายตัวที่สูงถึง 43% และคาดว่าในปี 2025 จะสามารถขยายตัวได้ถึง 14 ล้านคัน หรืออาจมากกว่า
เช่นเดียวกับตลาดรถ EV ในไทย ที่ในปี 2023 นี้ รถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้รับความนิยมมากขึ้น มีแบรนด์รถยนต์เข้ามาขยายตลาดในเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับแบรนด์หลักในไทยที่ก็เริ่มหันมาพัฒนาและจำหน่ายรถยนต์ EV รวมถึงรถยนต์พลังงานทางเลือกกันมากขึ้น ซึ่งก็ครอบคลุมทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ซึ่งจากยอดจดทะเบียนรถใหม่เฉพาะในเดือนกรกฎาคม 2023 ที่ผ่านมา รวมทั้งหมด 5,116 คัน และคาดว่าในปีนี้จะมียอดจดทะเบียนสูงถึง 4.95 หมื่นคัน คิดเป็น 430% YOY ทำให้มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 5.6% จากยอดขายทั้งหมดจากก 1.1% ในปี 2022 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ กำลังการผลิตรถยนต์ EVs ในเมืองไทยก็มีแนวโน้มที่สูงขึ้นไม่แพ้กัน โดยเบื้องต้นคาดว่าจะถูกปรับกำลังการผลิตถึง 3.5 แสนคันต่อปี ภายในปี 2568 เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคในไทย แต่ก็ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากปัจจัยอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน อาทิ ดอกเบี้ยขาขึ้น หนี้ครัวเรือน รวมถึงความต้องการในการจัดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่ก็มีแนวโน้มชะลอตัวลงเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นก็ยังอนุมานได้ว่า ตลาดรถ EV ก็ยังคงเป็นที่น่าจับตาและยังคงเติบโตมากขึ้นอย่างไม่หยุดนิ่ง โดยเฉพาะการมีมาตรการจากภาครัฐ ที่ช่วยสนับสนุนส่วนลดภาษีและเงินอุดหนุนสำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ที่ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกที่มากขึ้นในการเลือกรถยนต์ส่วนบุคคลมาใช้งาน
แนวโน้มที่สำคัญของตลาดรถยนต์ EV ในเมืองไทย
นอกจากนี้ ในประเทศไทยเองก็ให้ความสำคัญต่อรถยนต์พลังงานทางเลือกเช่นกัน ด้วยการตั้งจุดมุ่งหมายว่าจะเป็น “ศูนย์กลางผลิต EV แห่งภูมิภาคเอเชีย” หรือ “EV Hub ซึ่งในปี 2023 ก็สามารถทำส่วนแบ่งทางตลาดในภูมิภาคไปได้ทั้งหมด 58.3% ซึ่งปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนการใช้รถ EV ที่เติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะการส่งเสริมนโยบาย 30@30 ของรัฐบาล ที่ประกอบไปด้วย การตั้งเป้าหมายในการผลิตรถยนต์ EV ในประเทศในปี 2030 ให้ได้ร้อยละ 30 หรือ 725,000 การใช้นโยบายการปรับลดภาษีสรรพสามิตและภาษีนำเข้าสำหรับผู้นำเข้า ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลได้กลับคืนมา คือ ผู้นำเข้าที่ร่วมโครงการนั้น จะต้องเข้ามาตั้งฐานการผลิตรถ EV ภายในประเทศไทย และทำการผลิตในอัตราส่วน 1:1 ในส่วนของผู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้านั้นก็จะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐทำให้สามารถซื้อรถในราคาที่ถูกลง และที่ขาดไม่ได้คือ การให้สิทธิประโยชน์แก่กิจการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่เปิดให้บริการ ด้วยการให้อัตราค่าไฟฟ้าสำหรับสถานีอัดประจุไฟฟ้า ด้วยการจัดการแบบ Low Priority
เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดรถ EV ในไทย
จากข้อมูลการเติบโตของตลาดรถ EV ในไทย ในเบื้องต้น ก็น่าจะเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า การเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานทางเลือก เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่น่าจับตา โดยเฉพาะผู้ประกอบการและผู้ให้บริการ Fleet ที่สามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจ ด้วยการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ครบวงจร เพื่อรองรับการใช้งานของผู้ใช้บริการที่หลากหลายในพื้นที่ให้บริการ
สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ใช้บริการ ด้วยการติดตั้งสถานีชาร์จรถ EV ที่มีมาตรฐาน
สำหรับผู้ให้บริการหรือภาคธุรกิจที่ต้องการ ติดตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charging Station) หรือสถานีอัดประจุไฟฟ้า เพื่อรองรับการเข้ามาใช้บริการของลูกค้า สามารถเลือกใช้บริการรับติดตั้งสถานีชาร์จ ร่วมกับทาง Evolt Technology ผู้นำด้านการติดตั้งสถานีชาร์จรถ EV ที่ครบวงจร ด้วยมาตรฐานการติดตั้ง EV Charger PEA, MEA และ ERC ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นทั้งต่อผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ ว่าจะได้รับการใช้งานสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ปลอดภัย และผ่านการรับรองมาตรฐานอย่างแท้จริง
สร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อธุรกิจ ด้วยการให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม
การเลือกบริการติดตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้า หรือสถานีชาร์จรถ EV ในพื้นที่ให้บริการ ไม่ใช่แค่การรองรับการเติบโตของตลาดรถ EV เท่านั้น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจมีภาพลักษณ์ที่ดีต่อบริบทสังคม ที่ในปัจจุบันต่างก็ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รวมถึงปัญหาอันเนื่องมาจากปรากฏการณ์เรือนกระจก ซึ่งนับเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดสภาวะโลกร้อน จนทำให้หลาย ๆ คนหันมาให้ความสำคัญต่อพลังงานทางเลือกกันมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือการเลือกใช้รถยนต์ EV หรือรถยนต์ไฟฟ้านั่นเอง
และด้วยปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและสภาวะโลกร้อนในปัจจุบันเอง ก็เป็นอีกหนึ่งผลกระทบที่คนทั่วโลกต่างก็ให้ความสนใจ จนนำมาสู่การผลักดันนโยบายต่าง ๆ ขององค์กรหลายแห่ง ที่ต่างก็คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น มีการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อผลักดันให้องค์กรมีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) เช่นเดียวกับภาคขนส่งที่เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่มีสถิติการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่บรรยากาศสูงถึงร้อยละ 20% เพราะฉะนั้น จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้หลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชนต่างก็ให้ความสนใจต่อผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น เช่น การหันมาใช้รถพลังงานไฟฟ้าในองค์กร หรือแม้แต่ขนส่งสาธารณะ
บริการติดตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้าแบบ One Stop Service จาก Evolt
จากการเติบโตของตลาดรถ EV ในไทย ในเบื้องต้น รวมถึงการสร้างโอกาสทางธุรกิจ ด้วยการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่ให้บริการนั้น นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ให้บริการหรือภาคธุรกิจหลาย ๆ แห่ง ที่สามารถเตรียมตัวพื้นที่ให้บริการ ให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนผ่านเทรนด์การใช้รถใช้ถนนของคนยุคใหม่ โดยเฉพาะการเลือกบริการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ EV กับทาง Evolt Technology ที่มีความพร้อมด้านการให้บริการอย่างถึงที่สุด ด้วยการดูแลพื้นที่ให้บริการของท่านแบบ One Stop Service
- สามารถให้บริการการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งแบบ AC Charging และ DC Charging
- มีทีมงานที่มากประสบการณ์ และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน อาทิ วิศวกรระบบที่ผ่านการรับรอง
- ทุกพื้นที่ที่ต้องการติดตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้า จะต้องผ่านการสำรวจพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ก่อนเสมอ
- มีการแนะนำพื้นที่ให้บริการในการทำธุรกิจสถานีชาร์จอย่างเป็นระบบ รวมถึงการคิดค่าบริการชาร์จรถไฟฟ้า ทั้งในช่วง On-Peak และ Off-Peak
- มีบริการ Call Center แบบ 24 ชั่วโมง ที่คอยซัพพอร์ตและดูแลผู้ใช้บริการอย่างครอบคลุม
- แนะนำพื้นที่ให้บริการของท่านผ่านทาง Evolt Application ที่รองรับทั้งระบบ iOS และ Android
- มีทีมช่างที่พร้อมเดินทางไปตรวจสอบและแก้ไขปัญหา
จะเห็นได้เลยว่า แนวโน้มการเติบโตของ ตลาดรถ EV ทั้งในไทยและตลาดโลก เป็นอีกหนึ่งโอกาสที่ดีที่จะทำให้ผู้ให้บริการสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจ ด้วยการทำธุรกิจสถานีชาร์จรถไฟฟ้าในพื้นที่ให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกสบายต่อลูกค้าทุกคนที่ต้องการใช้บริการพื้นที่ของท่าน หรือกำลังมองหาสถานีชาร์จรถไฟฟ้าที่ใกล้เคียง ดังนั้น เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดรถ EV ในไทย ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสที่ดีกว่าที่ทุกธุรกิจจะเริ่มหันมาเตรียมความพร้อมของพื้นที่ให้บริการ ด้วยการเลือกติดตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้ากับทาง Evolt Technology ผู้นำด้านการติดตั้งสถานีชาร์จรถ EV ที่ครบวงจรในเมืองไทย