รถยนต์ไฟฟ้า 2023 ที่มีขายในไทย พร้อมราคา รุ่นไหนน่าใช้และน่าซื้อที่สุด?
รถยนต์ไฟฟ้า 2023 ที่วางจำหน่ายในเมืองไทยตอนนี้ ถือว่ามีตัวเลือกที่เพิ่มมากขึ้นจากปี 2022 พอสมควร ซึ่งจากการคาดการณ์แล้ว สามารถอนุมานได้ว่าภายในปี 2024 ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยจะมีตัวเลือกที่หลากหลายเช่นกัน โดยเฉพาะการเติบโตของตลาดรถยนต์ EV ในเมืองไทย ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งในวันนี้ทาง Evolt Technology จะมาแนะนำ รถไฟฟ้า EV 2023 ว่ามีรุ่นไหนบ้างที่น่าใช้ ด้วยการรวมรถยนต์ไฟฟ้าในไทยที่น่าใช้งาน พร้อมอัปเดตราคาตลาดล่าสุดครบทุกรุ่นดังแน่นอน อาทิ BMW, BYD, GWM, Mini Cooper, Mercedes-Benz และที่ขาดไม่ได้คือ Tesla
เลือกอ่านได้เลย
รวม 7 รถยนต์ไฟฟ้าในไทย 2023 พร้อมราคาจำหน่าย
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ที่เปิดตัวพร้อมกับจำหน่ายอย่างเป็นทางการในปี 2023 นี้ ถือว่ามีหลากหลาย แบรนด์เป็นอย่างมาก เพราะตลาดรถยนต์ EV ในไทย ถือว่ามีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เช่นเดียวกับสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ที่ก็ต้องมีจำนวนที่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดเช่นกัน เพราะฉะนั้น ทางอีโวลท์จะพาคุณมาดูกันว่าในตอนนี้มีรถไฟฟ้ารุ่นไหนบ้างที่น่าใช้ และมีราคาเท่าไหร่บ้าง
Tesla Model 3
หนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าน่าใช้ในประเทศไทยก็ต้องยกให้กับ Tesla Model 3 ซึ่งเป็นรถยนต์ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในปี 2023 ซึ่งในปัจจุบันก็ได้มีการเปิดตัว Model 3 รุ่นใหม่อย่าง New Project Highland พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงไปกว่า 50% กันเลยก็ว่าได้ อาทิ รูปร่างหน้าตาทั้งด้านหน้าและท้าย และอุปกรณ์ตกแต่งภายนอก พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ หน้าจอสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเบื้องต้นคาดว่าจะวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการในปลายปีนี้ ซึ่งราคาจำหน่ายเบื้องต้นคาดว่าน่าจะอยู่ที่ราว ๆ 1.7 ล้านบาท ซึ่งก็ใกล้เคียงกับรุ่นปัจจุบันที่วางจำหน่ายอยู่ในตอนนี้ ที่ใช้หัวชาร์จ Type 2 AC 11 kW / CCS Combo DC Fast Charging 170 kW
ราคาจำหน่าย Tesla Model 3 2023 โมเดลปัจจุบัน
- Tesla Model 3 Rear-Wheel Drive 2023 ราคา 1,759,000 บาท
- Tesla Model 3 Long Range 2023 ราคา 1,999,000 บาท
- Tesla Model 3 Performance 2023 ราคา 2,309,000 บาท
MG4 Electric
รถยนต์ไฟฟ้า MG4 Electric มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “ICON” เพื่อสื่อความเป็นต้นแบบของขุมพลังและการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor พร้อมการออกแบบมาให้เป็นรถ Hatchback 5 ประตู ที่ทำให้ตัวรถมีมิติและมีความโฉบเฉี่ยวมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีระบบ Advanced Synchronize Protection System ที่ช่วยเพิ่มความอุ่นใจในทุกเส้นทางการขับขี่ได้มากกว่า และที่ขาดไม่ได้คือ การชาร์จไฟ 1 ครั้ง สามารถวิ่งได้สูงสุดถึง 425 กิโลเมตร รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC Charging สูงสุด 6.6 และการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC Charging สูงสุด 8kW
ราคาจำหน่าย MG4 Electric
- MG4 Electric D ราคา 869,000 บาท
- MG4 Electric X ราคา 969,000 บาท
รถยนต์ไฟฟ้า BYD ATTO 3
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในไทยที่งบล้านต้น ๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของได้ ก็คือรถยนต์ไฟฟ้า BYD ATTO 3 ที่ใช้มอเตอร์ขับเคลื่อน 1 ตัว ขนาด 150 kW สามารถให้พลังสูงสุด 201 แรงม้า และสามารถทำอัตราเร่งได้ตั้งแต่ 0 – 100 กม./ชม. ด้วยการใช้เวลาเพียง 7.3 วินาที้ท่านั้น และที่สำคัญคือ รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้สามารถทำระยะทางได้สูงสุดถึง 410 – 480 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟเต็ม ตามมาตรฐาน NEDC ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานสำหรับใครหลาย ๆ คน
ราคาจำหน่าย รถยนต์ไฟฟ้า BYD ATTO 3
- BYD ATTO 3 Standard Range ราคา 1,099,900 บาท
- BYD ATTO 3 Extended Range ราคา 1,199,900 บาท
Ora Good Cat
รถยนต์ไฟฟ้าในไทย 2023 ที่มาแรงเช่นกันก็ต้องยกให้กับเจ้า Ora Good Cat หรือเจ้าของฉายาเจ้าแมวเหมียวที่แสนดี รถไฟฟ้า 100% ที่มีดีไซน์มินิมอลเข้ากับสาว ๆ โดยเฉพาะ ซึ่งหลังจากที่ทาง GWM Thailand เปิดตัวรถรุ่นนี้อย่างเป็นทางการ ก็ทำให้มียอดจองที่ถล่มทลาย และติดอันดับรถขายดีของค่ายเช่นกัน แต่จุดเด่นก็คือ รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ใช้แบตเตอรี่ 2 ขนาด ทำให้มีระยะทางวิ่งไกลตั้งแต่ 400 – 500 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
โดยแบตเตอรี่ในรุ่น 400 TECH และ 400 PRO มีขนาด 47.8 kWh ซึ่งในกรณีที่ชาร์จด้วย AC Charging จะใช้เวลาการชาร์จประมาณ 8 ชั่วโมง ในขณะที่การชาร์จด้วย DC Charging 0 – 80% จะใช้เวลาเพียง 45 นาที แต่หากชาร์จ 30 – 80% จะใช้เวลาเฉลี่ยเพียงแค่ 32 นาทีเท่านั้น แต่หากเป็นรุ่น 500 ULTRA ที่มีความจุแบตมากกว่าถึง 63.139 kWh จะทำให้วิ่งได้ไกล 500 กิโลเมตร และใช้เวลาชาร์จด้วยหัวชาร์จ AC Charging ประมาณ 10 ชั่วโมง และถ้าชาร์จด้วย DC Charging จะใช้เวลา 60 นาที จากแบตเตอรี่ 0 – 80% และ 30 – 80% ในเวลา 40 นาที ตามลำดับ
ราคาจำหน่าย Ora Good Cat
- Ora Good Cat 400 Pro ราคา 828,500 บาท
- Ora Good Cat 500 Ultra ราคา 959,000 บาท
- Ora Good Cat GT ราคา 1,286,000 บาท
BMW iX3 M Sport
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในไทย 2023 ที่มาแรงและได้รับความนิยมสูงเช่นกันก็คือ BMW iX3 M Sport ที่ใช้แพลตฟอร์มเดียวกันกับ BMW X3 ซึ่งเป็นรุ่นตัวถังที่ติดอันดับขายดีที่สุดของทาง BMW ซึ่งในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ใช้มอเตอร์ BMW eDrive 1 มอเตอร์ ที่ให้พละกำลังสูงสุดถึง 286 แรงม้า สามารถขับขี่ได้ระยะถึง 460 กิโลเมตร ต่อการชาร์จแบตให้เต็ม 1 ครั้ง จากมาตรฐานของ WLTP ซึ่งหากชาร์จไฟด้วย AC Charging 3 Phase Wallbox 11 kW จะใช้เวลาชาร์จจาก 0% ทั้งหมด 7.5 ชั่วโมง แต่หากชาร์จด้วย DC Charging จะใช้เวลาเพียง 34 นาที จากการชาร์จตั้งแต่ 0 – 80%
ราคาจำหน่าย BMW iX3 M Sport
- BMW iX3 M Sport (Inspiring) ราคา 2,999,000 บาท
- BMW iX3 M Sport (Pro) ราคา 3,699,000 บาท
NETA V
รถยนต์ไฟฟ้าไซซ์ Compact Crossover อีกหนึ่งรุ่นที่น่าเล่นในปี 2023 นี้ ก็คือรุ่น NETA V ซึ่งเป็นรถยกสูง 5 ประตู 5 ที่นั่ง ที่จัดอยู่ในกลุ่มของรถประเภท B-Segment โดยในรุ่นนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่ทางแบรนด์ NETA ได้ทำตลาดในเมืองไทย ตัวรถมีออปชั่นค่อนข้างครบและทันสมัย มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าลิเธียมไอออน ความจุ 38.5 kWh ที่ให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 95 แรงม้า และสามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 384 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งหากเทียบกับราคาค่าตัวแล้วถือว่าเป็นอีกหนึ่งรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าเล่น และน่าจะเหมาะกับคนงบประหยัด แต่อยากได้รถที่มีความครบครันทั้งออปชั่นและการใช้งานตามสไตล์รถยนต์ EV
ราคาจำหน่าย NETA V
- NETA V ราคา 549,000 บาท
MG ZS EV
ปิดท้ายกันด้วยรถยนต์ไฟฟ้าในไทยอีกหนึ่งรุ่นยอดฮิตอย่าง MG ZS EV หนึ่งในรถ SUV ที่โดดเด่นเรื่องพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวางและการออกแบบที่ดูทันสมัยตามสไตล์ MG โดยตัวรถใช้มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 177 แรงม้า มีแรงบิด 280 นิวตันเมตร โดยตัวแบตมีความจุถึง 50.3 kWh ที่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ ด้วยระยะทางที่ทำได้สูงสุดถึง 403 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ด้วยมาตรฐาน NEDC และที่สำคัญคือ รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้มีระบบระบายความร้อนอย่าง Liquid Cooling System ที่ช่วยทำให้มอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ไม่ร้อนจนเกินไป สามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
ราคาจำหน่าย MG ZS EV
- MG ZS EV รุ่น D ราคา 949,000 บาท
- MG ZS EV รุ่น X ราคา 1,023,000 บาท
มั่นใจในทุกการเดินทาง เลือกชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากับ Evolt
ด้วยการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย บวกกับการให้ความสำคัญต่อพลังงานสะอาดที่มากขึ้น ทาง Evolt Technology จึงกล้าการันตีด้วยความเชื่อมั่นต่อผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน ด้วยการขยายสถานีชาร์จร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่หลากหลายในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วไทย เพื่อให้บริการต่อผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างครอบคลุมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล หรือแม้แต่ในพื้นที่ต่างจังหวัดที่ก็มีการขยายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้น ผู้ใช้บริการทุกคนจึงสามารถมั่นใจได้ว่า ไม่ว่าจะเลือกเดินทางไปที่ไหนก็จะมีจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ใกล้เคียงท่านอย่างแน่นอน และในอนาคตทาง Evolt ก็มั่นใจว่าเราจะสามารถขยายจุดชาร์จได้อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการใช้งานของผู้ใช้บริการในทุกพื้นที่ทั่วไทย