Evolt ผนึกกำลัง Bolt สนับสนุนไรเดอร์ที่ขับรถ EV ด้วยลดค่าชาร์จ
เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ทางผู้บริหาร Evolt Technology (อีโวลท์ เทคโนโลยี) และ Bolt Thailand (บริษัท โบลท์ ซัพพอร์ต เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด) ได้ร่วมจับมือเป็นพันธมิตร เพื่อสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในเมืองไทยสำหรับไรเดอร์ หรือผู้ที่ประกอบอาชีพให้บริการรับ – ส่ง ผู้โดยสารผ่าน ทางแอปพลิเคชัน Bolt พร้อมมอบสิทธิพิเศษสำหรับ EV Rider ในการให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น ส่วนลดค่าบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และเครดิตเงินคืน
การร่วมมือของทาง Evolt และ Bolt เกิดขึ้นได้จากการเล็งเห็นถึงความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมในเมืองไทย และหลังจากที่ทางโบลท์ได้เปิดตัว Bolt Green Category ในกรุงเทพฯ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก็ทำให้เห็นว่า ในปัจจุบันมีไรเดอร์หลายคนที่ใช้รถยนต์พลังงานทางเลือกให้บริการอยู่ โดยครอบคลุมทั้งรถยนต์ประเภทไฮบริดและรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถยนต์ EV โดยในตอนนี้มีไรเดอร์ที่ใช้รถยนต์พลังงานทางเลือกให้บริการอยู่มากกว่า 2,000 คัน
โดยผู้จัดการประจำประเทศไทยของทางโบลท์เองก็ได้กล่าวว่า
“การจะทำให้บริการเรียกรถโดยสาร สามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่การให้บริการด้วยยานยนต์ไฟฟ้าแบบเต็มรูป และทำให้การปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (Zero Emissions) ได้นั้น จะต้องสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ขับขี่ที่มีต่อยานยนต์ไฟฟ้าได้ก่อน หนึ่งในนั้นคือ การเข้าถึงสถานีชาร์จไฟในพื้นที่ต่าง ๆ และการร่วมมือกับทาง Evolt ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยขจัดความกังวลดังกล่าวนี้ได้ ทั้งยังช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านให้ผู้ขับขี่หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้มากขึ้น ซึ่งก็จะทำให้การเรียกใช้บริการรถโดยสารไฟฟ้าเติบโตมากขึ้นตามไปด้วย”
แน่นอนว่า การร่วมมือกันระหว่าง Evolt และ Bolt จึงเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญ ที่จะช่วยสร้างสังคมที่ยั่งยืนได้ผ่านการให้บริการรถโดยสารไฟฟ้า โดยเฉพาะทาง Bolt ที่เป็นผู้นำด้านการแบ่งปันยานพาหนะร่วมกัน หรือก็คือระบบการแบ่งปันบริการเคลื่อนที่ (Shared Mobility)
โดยการร่วมมือกันในครั้งนี้ ทางอีโวลท์และโบลท์ได้ร่วมกันหาแนวทางเพื่อสร้างแรงจูงใจต่อไรเดอร์ ให้หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ด้วยการมอบเครดิตเงินคืนและส่วนลดค่าชาร์จ ด้วยสิทธิพิเศษ “Bolt Rewards” ที่จะได้รับเมื่อใช้บริการที่สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Evolt ในพื้นที่ใดก็ได้ ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ ทางโบลท์จะมีการติด QR Code เอาไว้ที่ตู้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของอีโวลท์ด้วยเช่นกัน เพื่อประชาสัมพันธ์และเชิญชวนให้ให้ผู้ที่ขับรถยนต์ไฟฟ้าที่สนใจเข้ามาสมัครสมาชิก Bolt และรับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม
นอกเหนือจากความร่วมมือดังกล่าวแล้ว ทาง Bolt ยังได้สนับสนุนผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าด้วยการเพิ่มช่องทาง เพื่อให้เข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าได้มากขึ้น ด้วยการผสานความร่วมมือกับทาง WATT’S UP ซึ่งเป็น e-Marketplace หรือผู้ให้บริการเช่ารถ EV Bike แบบครบวงจรผ่านทางแอปพลิเคชัน
โดยโครงการ WATT’S UP นี้ เป็นการผนึกกำลังร่วมกันระหว่าง ธนาคารกสิกรไทย ไปรษณีย์ไทย และ เอซ เซม มอเตอร์ (HSEM) โดยผู้ที่สนใจสามารถจองและจ่ายเงินได้ผ่านทางแอป และโครงการดังกล่าวนี้นำร่องโดยการใช้กับพนักงานไปรษณีย์ไทย 3 สาขา ได้แก่ สาขาจตุจักร สาขาสามเสนใน และสาขานนทบุรี พร้อมเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้ใช้แพลตฟอร์มดังกล่าวในช่วงต้นปี 2567 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ทาง Evolt และ Bolt เอง ยังได้มีนโยบายต่าง ๆ เพื่อไรเดอร์ที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการดังกล่าวนี้ โดยเฉพาะการให้บริการสถานีชาร์จและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เพื่อไรเดอร์โดยเฉพาะ
1. Evolt มอบ Charging Credit สำหรับไรเดอร์ที่ใช้รถ EV
สำหรับไรเดอร์ที่รับงานผ่านทางแอปพลิเคชัน Bolt จะได้รับเครดิตการชาร์จผ่านทางแอป โดยเครดิตดังกล่าวสามารถนำมาใช้เป็นส่วนลดค่าชาร์จไฟรถไฟฟ้าที่สถานีชาร์จของ Evolt ได้ทุกสถานี และยิ่งชาร์จมากเท่าไหร่ก็ยิ่งได้รับเครดิตมากขึ้นเท่านั้น โดยทางอีโวลท์มอบส่วนลดค่าชาร์จให้สูงสุดถึง 600 บาท (ชาร์จเกิน 200 kW/เดือน) โดยทุก ๆ 200 kW จะได้รับเครดิตชาร์จคืน 200 บาท เพราะฉะนั้น ยิ่งไรเดอร์รับงานมากขึ้นก็ยิ่งได้รับเครดิตหรือส่วนลดมากขึ้นตามไปด้วย
2. รับส่วนลด 5% สำหรับลูกค้า Bolt Tier Gold & Platinum
นอกจากส่วนลดค่าชาร์จที่ไรเดอร์จะได้รับส่วนลดค่าชาร์จไฟรถไฟฟ้า 200 บาท ในการชาร์จไฟที่สถานีชาร์จครบทุก ๆ 200 kW แล้ว อีกหนึ่งสิทธิพิเศษที่มอบให้กับลูกค้า Bolt ก็คือ สำหรับ Tire Gold & Platinum จะได้รับส่วนลดค่าบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV 5% ทุกครั้งที่ใช้บริการที่สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของทาง Evolt โดยสามารถใช้ได้ทั้งหัวชาร์จประเภท AC และ DC Charging ทั่วประเทศ
3. ใช้บริการสถานีชาร์จประเภท DC Charging ได้ทุกพื้นที่
โดยทาง Evolt มีความมุ่งมั่นที่จะขยายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยเฉพาะจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่มีหัวชาร์จประเภท DC Charging (การชาร์จรถแบบเร่งด่วน) เพื่อรองรับการชาร์จไฟในช่วงเวลาที่ไรเดอร์สามารถวิ่งงานได้มากขึ้น เช่น ช่วงเวลาเร่งด่วน หรือวันหยุด ที่มีผู้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะเป็นจำนวนมาก ดังนั้น การชาร์จไฟในเวลาดังกล่าวก็ย่อมมีความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
โดยในปัจจุบัน Evolt มีพื้นที่ให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 250 แห่ง พร้อมจุดชาร์จที่มากกว่า 700 จุด โดยมีเครื่องชาร์จติดตั้งมากกว่า 20,000 เครื่อง และให้บริการลูกค้ามากกว่า 50,000 ราย และในอนาคตคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการมากขึ้น ตามการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในเมืองไทยอีกหลายเท่าตัว
อย่างไรก็ตาม นโยบายและโครงการดังกล่าวที่ทาง Evolt และ Bolt ได้ร่วมมือกันนั้น นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่จะช่วยลดมลพิษในอากาศได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งยังเป็นแรงสนับสนุนให้กับไรเดอร์ที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ให้มีความเชื่อมั่นต่อการใช้รถยนต์ EV ในการประกอบอาชีพ โดยเฉพาะพื้นที่ให้บริการจุดชาร์จไฟที่มีความครอบคลุม รวมถึงจำนวนหัวชาร์จประเภท DC Charging ที่เพียงพอต่อความต้องการของไรเดอร์และผู้ใช้งานทั่วไป